
นับเป็นครั้งแรกที่สมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) สามารถเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมาร่วมเวทีเสวนาและรับฟังความคิดเห็นของแรงงานนอกระบบได้ ในงานที่จัดขึ้นโดยสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) จัดงานร่วมกับ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ HomeNet Thailand และ สสส. ในวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2025 ภายในงานมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 134 คน เป็นเพศชาย 43 คน เพศหญิง 91 คน มีกิจกรรมดังต่อไปนี้
- ชุดการแสดงทางวัฒนธรรมประจำภาค
- นิทรรศการและร้านค้าของแรงงานนอกระบบ
- การแสดงของแต่ละอาชีพ 12 เรื่องเล่าจากปากของแรงงาน
- เวทีเสวนาโดยวิทยากร 13 ท่านภายใต้หัวข้อเสวนา 4 หัวข้อ ได้แก่
- ทิศทางการพัฒนากฎหมาย นโยบาย หลักประกันทางสังคมของแรงงานนอกระบบ
- ทิศทางการพัฒนาระบบประกันสังคมของแรงงานนอกระบบ
- ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของแรงงานนอกระบบ และ
- แนวทางการช่วยเหลือ เยียวยาแรงงานนอกระบบ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดยผลลัพธ์ที่น่าประทับใจของตัวงานคือการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายภายใต้ 4 หัวข้อเสวนาหลักที่ถูกรวบรวมและประมวลผลจากกิจกรรมภายในงาน และนำเสนอโดยตัวแทนแรงงานนอกระบบทั้ง 4 ท่านต่อหน้าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และตัวงานยังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เป็นข่าวที่ถูกตีพิมพ์ไปในหลายสำนัก ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มการรับรู้ถึงการมีอยู่และส่งเสียงของแรงงานนอกระบบออกไปสู่สังคมภายนอกอย่างแท้จริง

และจากข้อเสนอเชิงนโยบายที่ได้มาจากภายในงานทั้งหมด มีข้อที่น่าสนใจอยู่มาก เช่น การสนับสนุนประกันสังคมถ้วนหน้า (Universal Social Security) ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สะท้อนปัญหาสำคัญของแรงงานนอกระบบในไทย ซึ่งกว่า 60% ของแรงงานทั้งหมดมักอยู่นอกระบบการคุ้มครอง และถ้าเดินหน้าทำได้จริง จะทำให้แรงงานทุกคนมีหลักประกันทางสังคมขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะอยู่ในมาตราใด (33, 39, 40) หรือทำอาชีพอะไร โดยแนวทางนี้ยังสอดคล้องกับความเป็นธรรมทางสังคม (social justice) และแนวโน้มสากลที่ผลักดันให้แรงงานทุกกลุ่มมีสิทธิขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกัน หรือ การช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะข้อเสนอ การสนับสนุนให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเปลี่ยนมาใช้ยานพาหนะไฟฟ้า ถือเป็นมาตรการที่เชื่อมโยงประเด็นแรงงาน–สิ่งแวดล้อม–พลังงานเข้าด้วยกัน นอกจากจะช่วยแรงงานลดค่าใช้จ่ายและเสี่ยงต่อมลพิษแล้ว ยังสอดรับกับเป้าหมายด้านการลดคาร์บอนของประเทศ ข้อเสนอนี้สะท้อนถึงการมองแรงงานนอกระบบในฐานะ “ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง” จากภาวะโลกรวน และควรมีมาตรการเฉพาะเพื่อเยียวยา